สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน ประจำประเทศไทย (TAITRA) นำผลิตภัณฑ์ทางด้านอุตสาหกรรมนวัตกรรมการแพทย์ของไต้หวัน ร่วมงาน “Medical Fair Thailand 2023” งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีทางการแพทย์ระดับโลก เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม ด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยในปี พ.ศ.2566 นี้ “Taiwan Excellence” ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาการออกแบบนวัตกรรมที่มีชื่อเสียง ได้นำนวัตกรรมด้านสุขภาพอัจฉริยะ เทคโนโลยีชีวภาพ และการแพทย์จาก 15 บริษัทชั้นนำที่ได้รับรางวัล “Taiwan Excellence” ร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ภายในงาน ภายใต้แนวคิด “Future Telemedicine: Connecting Healthcare, Caring for the World” ระหว่างวันที่ 13 – 15 กันยายน พ.ศ.2566 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ ฮอลล์ 98 บูธ K18 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
เพ่ย หยู่ หลิน รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเชิงกลยุทธ์ของสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน ประจำประเทศไทย (TAITRA) กล่าวว่า การนำผลิตภัณฑ์สุขภาพอัจฉริยะ เทคโนโลยีชีวภาพ และการแพทย์ ที่ได้รับรางวัลทั้ง 15 บริษัทจากไต้หวัน มาจัดแสดงในงาน “Medical Fair Thailand 2023” งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีทางการแพทย์ระดับโลก เพื่อยกระดับอุตสาหกรรม ด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดย TAITRA จัดภายใต้แนวคิด “Future Telemedicine: Connecting Healthcare, Caring for the World” เพื่อนำเสนออุปกรณ์ทางการแพทย์ และบริการด้านการรักษาและดูแลสุขภาพผู้ป่วยระยะไกลอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้เครื่องมือที่ถูกพัฒนาด้วยนวัตกรรมที่ผ่านการวิจัย คิดค้น พัฒนา และตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ได้มาตรฐานและปลอดภัย เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเอื้ออำนวยให้กับผู้ป่วยที่ไม่สะดวกด้วยข้อจำกัดบางอย่าง ให้ได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงที ในระยะเวลาอันรวดเร็ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่านวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ทั้ง 15 บริษัทชั้นนำของไต้หวัน ได้แก่ 1.AVer Information Inc. 2.Energy Resources International Co., Ltd. (ERI) 3.HIWIN TECHNOLOGIES CORP. 4.NanoRay BioTech Co., Ltd. 5.Wellell Inc.6. BenQ Dialysis Technology Corp.7. BioGend Therapeutics Co., Ltd. 8. Dyaco International Inc. 9. EPED Inc. 10. FU JUN BIOMEDICAL CO., LTD. 11. Netown Corporation 12. Taiwan Surgical Corporation.13. Winnoz Technology Inc. 14. Inventec Appliances Corp.และ15. Wincomm Corporation นำมาจัดแสดงในงานจะตอบโจทย์การใช้งานและนำไปต่อยอดผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมทางการแพทย์ของไทย ประชาชนคนไทยและผู้เข้าร่วมงานทุกๆคน
เภสัชกร ปรีชา พันธุ์ติเวช นายกสมาคม สมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ COVID- 19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างเกิดการตื่นตัว ตระหนักรู้ ทั้งในระดับผู้เชี่ยวชาญ และในระดับประชาชนทั่วไป ถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมทางด้านการแพทย์ในระดับของการป้องกัน อีกทั้งเทคโนโลยี AI ได้เข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วน ทำให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์พัฒนาอย่างก้าวกระโดด จึงเป็นโอกาสอันดีของวงการอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทย ในการเปิดรับ เรียนรู้เทคโนโลยีจากทั่วโลก ซึ่งไต้หวัน ถือเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีด้านไอที ซึ่งผนวกเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่างๆของไต้หวันได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และภายในการจัดงาน“Medical Fair Thailand 2023” ครั้งนี้ 5 บริษัทชั้นนำของไต้หวัน ได้นำผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ไทยมาร่วมจัดแสดงภายในงาน คาดว่าจะช่วยเปิดโอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจ และประสานความร่วมมือในด้านการพัฒนาวงการเครื่องมือแพทย์ของไทย และเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับไต้หวันได้เป็นอย่างดียิ่งๆขึ้นไป
Ms. Abbie Huang Account Manager AVer Information Inc. กล่าวว่า บริษัทฯเป็นผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษาและโซลูชันการทำงานร่วมกันผ่านภาพชั้นนำ ซึ่งนำ นวัตกรรมกล้อง PTZ เกรดทางการแพทย์ (AVer MD330U Medical Grade PTZ Camera) ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบดูแลผู้ป่วยทางไกล และการถ่ายทอดสดการผ่าตัด ประกอบด้วยหัวกล้องมือถือแบบถอดได้ตัวแรกของโลก มาเปิดตัวในงาน พร้อมความสามารถในการซูมแบบออพติคอล 30 เท่า ความละเอียดเอาท์พุต 4K และฟังก์ชันติดตามด้วยปัญญาประดิษฐ์ ที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสามารถบันทึกรายละเอียดในมุมมองที่แตกต่างกันในสถานพยาบาลได้ ตลอดจนระบบเสียงแบบฝัง พร้อมเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนด้วยปัญญาประดิษฐ์ ที่สามารถลดเสียงพื้นหลัง ช่วยให้การสื่อสารสองทางระหว่างแพทย์และผู้ป่วยชัดเจนยิ่งขึ้น
Mr. Robert Yang, Vice President Energy Resources International Co., Ltd. (ERI) กล่าวว่า บริษัทที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมทันตกรรม และได้รับการรับรองจาก FDA ของไต้หวันและสหรัฐอเมริกาในปี 2021 และ 2022 ด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ทันตกรรมมือถือ ที่ใช้แบตเตอรี่ AG100 นอกจากนี้ยังกำลังเดินหน้าพัฒนาระบบเอ็กซเรย์แบบพกพาที่ล้ำสมัย CVXair ที่หนักเพียง 3.5กิโลกรัมเท่านั้น สำหรับแขนขาและหน้าอก ซึ่งได้ผ่านการทดลองทางคลินิกเป็นที่เรียบร้อย และสามารถนำไปใช้ในการแพทย์ทางไกลและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ก่อให้เกิดการวินิจฉัยและรูปแบบธุรกิจใหม่
Mr. Hung-Chuan Hsu, HIWIN TECHNOLOGIES CORP. กล่าวว่า บริษัทฯ นำโซลูชันหุ่นยนต์สำหรับบริการทางการแพทย์ (HIWIN Robotic Solutions for Medical Services) สำหรับศัลยแพทย์ที่ต้องการบูรณาการหุ่นยนต์เข้าสู่การผ่าตัดอย่างไหลลื่น ด้วยการวางตำแหน่งเอนโดสโคปอย่างแม่นยำ ทำให้ MTG H100 กลายเป็นผู้ช่วยผ่าตัดที่น่าเชื่อถือ ช่วยให้เกิดแผลผ่าตัดน้อยที่สุด
Mr. Maick Su, CEO, Nanoray BioTech Co., Ltd. กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านแอปพลิเคชันเอ็กซ์เรย์ ที่คิดค้นนวัตกรรม ระบบถ่ายภาพด้วยรังสีสำหรับวินิจฉัยมือ Revolux เครื่องเอ็กซเรย์มือพลังงานต่ำที่ผลิตในไต้หวันเครื่องแรกของโลก ประกอบด้วยหลอดเอ็กซ์เรย์ส่งสัญญาณเฉพาะตัว เซ็นเซอร์ภาพดิจิทัล ระบบซอฟต์แวร์ถ่ายภาพ และกล่องบรรจุรังสี นอกจากนี้ Revolux ไม่เพียงแต่ดีไซน์หรูหรา หากแต่ยังปลอดภัยสูง สร้างสภาพแวดล้อมคุณภาพสูงสำหรับผู้ป่วยที่ถ่ายภาพ เป็นไปตามมาตรฐาน ISO, QMS, US FDA และการรับรอง FDA ของไต้หวันสำหรับการประเมินอายุกระดูก
Mr. Ray Yang, Asia Division Sales Manager, Wellell Inc. กล่าวว่า บริษัทฯเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการผู้ป่วยคุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรม Optima Turn คือโซลูชันพื้นผิวรองรับที่ลดแรงกด ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการผู้ป่วย การป้องกันการบาดเจ็บจากแรงกดทับ และการส่งมอบและผลลัพธ์ในการดูแลผู้ป่วยสำหรับผู้ป่วยใน การหมุนผู้ป่วยในตำแหน่งด้านข้าง 30 องศา ทุก 4 ชั่วโมงบนที่นอนแรงดันสลับช่วยลดอุบัติการณ์การบาดเจ็บจากแรงกดทับ 85% และความเข้มของแรงงานสำหรับผู้ดูแล และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของผู้ป่วยและประหยัดต้นทุน 45 8.5% ของผู้ป่วยผู้ใหญ่แบบเฉียบพลันและหลังเฉียบพลันจะเกิดอาการบาดเจ็บจากแรงกดทับ (PI) ในโรงพยาบาล โดยมีอุบัติการณ์ 5.4 ต่อผู้ป่วย 10,000 รายต่อวัน ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการผู้ป่วยและความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากแรงกดดันให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดี นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรม Pro-care Auto ซึ่งเป็นปั๊มอัดคู่ที่จะสูบลมที่นอนได้ภายใน 20 นาที โดยเครื่องอัดจะทำงานสลับกันเพื่อขยายการดูแลบรรเทาทุกข์ระหว่างการขนส่ง โดยจะปรับเทียบความแน่นของที่นอนโดยอัตโนมัติ และนำเสนอการบำบัดบรรเทาแรงกดทับแบบสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น เพื่อปรับปรุงการป้องกันการบาดเจ็บจากแรงกดทับทั้งในและนอกสถานพยาบาลสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เหมาะสำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลและผู้ป่วยหลังเฉียบพลัน
