บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ของประเทศไทย มุ่งเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมมือกับ OutSystems นำเทคโนโลยี Low-Code ประสิทธิภาพสูงมาพัฒนาแอปพลิเคชันและสร้างระบบ Digital เพื่อช่วยให้ธุรกิจมีความเป็นอัจฉริยะและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน พาองค์กรไปสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืน
ตั้งแต่ใน พ.ศ. 2561 บริษัทฯ ได้วางแผนและเตรียมพร้อมในการทำ Digital Transformation โดยเน้นไปที่การเข้าไปยกระดับและสร้างความเปลี่ยนแปลงใน 3 แกนหลักขององค์กร หรือที่รู้จักกันภายในว่า Triple Transformation ประกอบด้วย Business, Technology และ People โดย GC ให้ความสำคัญกับพนักงานเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนองค์กร และได้มีการตั้งทีม Digital Transformation ขึ้นมาเฉพาะ เพื่อสร้างสรรค์ไอเดียแก้ Pain Point ต่าง ๆ
ปัจจุบันบริษัทในประเทศไทยกำลังเผชิญกับต้นทุนในการดำเนินธุรกิจมากมาย และอยู่ท่ามกลางกระแส Digital Disruption ทีมไอทีมีความสำคัญต่อเป้าหมายทางธุรกิจในยุคนี้ GC นำแพลตฟอร์ม Low-Code จากเอาท์ซิสเต็มส์มาใช้เพื่อปรับกระบวนการให้เป็นดิจิทัลและพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อแก้ Pain Point พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพต่อยอดการดำเนินงานให้มีความทันสมัยมากขึ้น
GC นำเทคโนโลยี Low-Code ประสิทธิภาพสูงจาก OutSystems มายกระดับบริการต่าง ๆ และใช้เป็นแพลตฟอร์มเพื่อทำงานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2562 โดยล่าสุดทีมงานได้นำแพลตฟอร์ม OutSystems ไปพัฒนาเป็นระบบสำคัญ (Critical Systems) ในโครงการ B-Leap Project ต่อยอดงานวิจัยและพัฒนา (R&D) ผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ ช่วยทำให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถลดเวลาการทำงานของนักวิจัยลงได้ 30 % และลดต้นทุนที่เกิดจากการวิจัยที่ซ้ำซ้อนได้มากถึง 75% นอกจากนี้ยังนำไปพัฒนา Smart Loading Application เพื่อใช้เป็น Digital Systems สำหรับจัดคิวรถบรรทุกน้ำมันจากโรงกลั่น และดีลกับบริษัทฯ ต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งหลังเปิดใช้ในปี 2564 สามารถช่วยลดเวลาการทำงานของทีมงานกลางที่หอกลั่นลงได้ถึง 12.5% และลดการผิดพลาดในการทำงานที่เกิดจากคน (Human Error) ได้ 10%
ในขั้นตอนการดำเนินการ (Implementation & Operation) บริษัทฯ ให้ความสำคัญใน 3 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ Tech Foundation ซึ่ง OutSystems ได้จัดหาแพลตฟอร์มข้อมูล, เครื่องมือเทคโนโลยี, รวมถึงการพิจารณาโครงข่ายการสื่อสาร 5G และทดลองนำร่องในดิจิทัลโปรเจกต์ แกนที่สอง คือ Project Implementation ที่ OutSystems ทำงานร่วมกับตัวแทนของแต่ละหน่วยงาน (BUs) ภายในเครือ GC เพื่อศึกษา Pain Points สรรหาไอเดีย และสร้างโซลูชันเพื่อพัฒนานวัตกรรมได้อย่างตอบโจทย์เชิงธุรกิจ และในแกนสุดท้ายที่ีมีความสำคัญที่สุด คือ Organization Capability Building & Communication มุ่งเน้นพัฒนาความสามารถของทีมนักพัฒนาและการสื่อสารระหว่างทีม ช่วยทำให้ GC พัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตอบโจทย์ทางการตลาด (Time To Market) ได้อย่างรวดเร็ว
ณัฐพล จงจรูญเกียรติ Head of Digital Transformation บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า “สำหรับเป้าหมายด้านดิจิทัลในอนาคตของ GC เราตั้งเป้าเป็นองค์กรแบบกระจายศูนย์มากยิ่งขึ้น (Distributed Enterprise) พร้อมมุ่งสร้างทีมพัฒนา (Domain Expert) ขึ้นเองในแต่ละหน่วยงาน โดยสามารถทำงานร่วมกับทีมไอทีส่วนกลางและนำโซลูชันหรือเทคโนโลยีต่าง ๆ ไปต่อยอดทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเทคโนโลยี Low-Code ของ OutSystems จะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เข้ามาช่วยพัฒนาได้เป็นอย่างดี เพราะที่ GC เราเชื่อว่าทีมงาน คือ พลังงาน ที่สำคัญที่สุดของเรา อันจะช่วยต่อยอดไปสู่การเป็นองค์กรที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคตได้”
“นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยี Low-Code ของเอาท์ซิสเต็มส์มาใช้ ทำให้ GC สามารถพัฒนาแอปฯ ใหม่ ๆ ได้มากกว่า 18 แอปฯ ในเวลา 2.5 ปี รวมถึงสามารถปรับปรุงหรืออัปเดตระบบต่าง ๆ จาก Manual ให้เป็น Digital ของบริษัทในเครือ สะท้อนความสำคัญของเทคโนโลยี Low-Code ของเอาท์ซิสเต็มส์ ในฐานะผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของนักพัฒนาและธุรกิจ”
ผลวิจัยล่าสุด ‘Total Economic Impact™ of OutSystems’ ที่จัดทำขึ้นโดย ฟอร์เรสเตอร์ คอนซัลติ้ง ในนามของเอาท์ซิสเต็มส์ เผยให้เห็นว่าแพลตฟอร์ม Low-Code ช่วยลดค่าใช้จ่ายแก่องค์กรธุรกิจเป็นอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาและค่าใช้จ่ายของการพัฒนาและบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเองภายในกับการนำแพลตฟอร์ม OutSystems มาปรับใช้ ซึ่งจากผลการศึกษาระบุว่า OutSystems ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแก่องค์กรธุรกิจได้ถึง 6.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้น รวมถึงระยะเวลาการพัฒนาและการเปิดตัวที่สั้นลง
เติมศักดิ์ วีรขจรพงษ์ รองประธานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอาท์ซิสเต็มส์ กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้เป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการทำดิจิทัลทรานฟอร์มเมชั่นของ GC ซึ่งความร่วมมือนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า เทคโนโลยี Low-Code ประสิทธิภาพสูงของเอาท์ซิสเต็มส์ เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาเพียงอย่างเดียว แต่ยังต่อยอดไปสู่การออกแบบบริการ นวัตกรรม และลด Painpoints ทางธุรกิจได้”