วิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สกนช.ได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบติดตามและเชื่อมโยงข้อมูลกรมสรรพสามิตและสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์ของ สกนช. ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่มีความจำเป็นในการใช้งานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ช่วยสนับสนุนการทำงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ ในส่วนงานของการประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในเรื่องการกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน รวมถึงอัตราการชดเชยคืนกองทุนสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง และสำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้ในการนำส่งเงิน ขอรับเงินชดเชย และการขอรับคืนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ประกอบการ
โดยระบบติดตามและเชื่อมโยงข้อมูลฯ นี้ ช่วยลดขั้นตอนการส่งข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ให้มีความรวดเร็วต่อการใช้งาน มีความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบ กำกับและดูแลให้เกิดความถูกต้อง โปร่งใส และอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการในการติดตามการขอรับเงินชดเชย และการขอรับเงินคืนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ประกอบการ
การดำเนินการตามโครงการฯ ดังกล่าว เป็นการให้บริการ E-Service เรียกว่า ระบบ TOFS (TOFS : Thailand Oil Fund System) ที่ช่วยผู้ประกอบการไม่ต้องเดินทางมาติดต่อ สกนช. ในการขอรับเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นเอกสารผ่านระบบ และติดตามความคืบหน้าของเอกสารที่ยื่นผ่านระบบ รวมทั้งเมื่อได้รับเงินชดเชยเรียบร้อยแล้ว สามารถขอเอกสารภาษีหัก ณ ที่จ่ายผ่านระบบได้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบดังกล่าว100% แล้ว ซึ่งการใช้งานสามารถเข้าใช้งานผ่าน www.offo.or.th ในเมนู E-Service (บริการอิเล็กทรอนิกส์)