CKPower กำไร 1,022 ล้านบาทในไตรมาส 3/2566 พร้อมติดหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับสูงสุด AAA และคว้าผลการประเมิน CGR ระดับดีเลิศ 6 ปีติด


บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ 3 ประเภท จำนวน 14 แห่ง รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3,627 เมกะวัตต์ คาดผลการดำเนินงาน Q4/2566 ได้รับอานิสงส์จากปริมาณน้ำที่ยังดีต่อเนื่อง และ XPCL ลดต้นทุนทางการเงินได้จากการออกหุ้นกู้

ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำที่สุดรายหนึ่ง เปิดเผยว่า CKPower มีผลการดำเนินงานที่เป็นบวกทั้งในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนปี 2566 แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ในช่วงครึ่งปีแรก แต่สถานการณ์ปริมาณน้ำมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ทำให้บริษัทสามารถปรับแผนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 3 โดยคาดว่าจะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี

สำหรับผลการดำเนินงานของ CKPower ในไตรมาส 3 ปี 2566 มีรายได้รวม 2,649 ล้านบาท ลดลง 846 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 24.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 1,022 ล้านบาท ลดลง 440 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 30.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ รายได้รวมงวด 9 เดือนของปีนี้ อยู่ที่ 7,901 ล้านบาท ลดลง 796 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทสำหรับงวด 9 เดือน จำนวน 919 ล้านบาท ลดลง 1,445 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 61.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) จากปริมาณการขายไฟฟ้าที่ลดลงตามปริมาณน้ำ และค่าใช้จ่ายทางการเงินของ XPCL ที่สูงขึ้นตามแนวโน้มดอกเบี้ยโลก ขณะที่ บริษัท ไฟฟ้า น้ำงึม 2 จำกัด (NN2) มีรายได้จากการขายไฟฟ้าลดลงและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากงานซ่อมบำรุงใหญ่ (Major Overhaul) ซึ่งเป็นไปตามแผนการซ่อมบำรุง และ บริษัท บางเขนชัย จำกัด (BKC) มีรายได้ลดลงจากการสิ้นสุดการได้รับ Adder ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนของปี 2566 CKPower พลิกรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 816 ล้านบาท และ 555 ล้านบาท จากที่รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนในไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปีนี้ ตามลำดับ

นอกจากนี้ XPCL ยังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Debentures) ในวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ให้กับนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ รวมจำนวน 3,500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.15-5.55 ต่อปี โดย XPCL นำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปชำระคืนเงินกู้ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยและลดต้นทุนทางการเงิน ซึ่งจะส่งผลดีต่อส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนและผลการดำเนินงานโดยรวมของ CKPower ให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

สำหรับฐานะทางการเงินของ CKPower ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 0.59 เท่า ซึ่งต่ำกว่าข้อกำหนดของหุ้นกู้ที่ให้ดำรงอัตราส่วนดังกล่าวไม่ให้สูงเกิน 3.00 เท่าค่อนข้างมาก แสดงถึงฐานะทางการเงินที่มีความมั่นคง

“เป็นเรื่องน่ายินดีที่เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา CKPower ได้รับคะแนนกำกับดูแลกิจการ (CG Score) ในระดับ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2566 ที่จัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย พร้อมกันนี้บริษัทยังได้รับการประเมินจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ได้ SET ESG Ratings ประจำปี 2566 ที่ระดับ “AAA” ซึ่งเป็นเรทติ้งระดับสูงสุด นับเป็นการติดรายชื่อหุ้นยั่งยืน 4 ปีติดต่อกัน สะท้อนภาพการทำงานและสอดรับกับวิสัยทัศน์ของ CKPower ในการมุ่งสร้าง “พลังงานสะอาดสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” รวมถึงสะท้อนการบริหารจัดการบริษัทที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน และแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาด้านความยั่งยืนของบริษัทผ่านการนำกลยุทธ์ “ซี เค พี” หรือแผนการดำเนินงาน 5 ปี สู่ความยั่งยืน (พ.ศ.2565-2569) ของบริษัทซึ่งครอบคลุมในทุกมิติของแนวคิด ESG โดยขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างการเปลี่ยนด้านพลังงานสะอาดที่สำคัญให้กับภูมิภาคในอนาคตต่อไปอย่างยั่งยืน” ธนวัฒน์กล่าว

CKPower หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดและมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ต่ำที่สุดในภูมิภาค ตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนจากเดิม 93% เป็น 95% หรือ 4,800 เมกะวัตต์ ภายในปี พ.ศ. 2567 นอกจากนี้ CKPower ยังสนับสนุนเป้าหมายที่มุ่งเน้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2593 ด้วยการพัฒนานวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด โดยล่าสุดในปี 2565 โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในเครือของกลุ่มบริษัท CKPower สามารถผลิตไฟฟ้าสะอาดส่งให้ประเทศไทยได้ถึง 9.5 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) หรือ 5 % ของไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศ เทียบเท่ากับการหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 5 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และในปี 2565 CKPower ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรจากทริสเรตติ้ง ที่ “A” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” ทั้งนี้ในปี 2566 CKPower ได้รับคะแนนการกำกับดูแลกิจการ (CG Score) ในระดับ “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2566 และในปีเดียวกันนี้ CKPower ได้รับการประเมินจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ได้ SET ESG Ratings ประจำปี 2566 ที่ระดับ “AAA” ซึ่งเป็นเรทติ้งระดับสูงสุด นับเป็นการติดรายชื่อหุ้นยั่งยืน 4 ปีติดต่อกัน


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save