กลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมเสวนา Accessible Power for Everyone ในงานแถลงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ “RÊVERLUTION: Our Vision of a Decarbonized Future” จัดโดยบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด มอบ ‘คาร์บอนเครดิต’ ให้กับลูกค้า ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า BYD ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกกิโลเมตรที่ขับขี่
กลอยตา ได้กล่าวถึงบทบาทของบางจากฯ ที่ได้ปรับเปลี่ยนธุรกิจเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และสร้างสมดุลในการดำเนินธุรกิจ โดยปัจจุบันมี 5 ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ธุรกิจการตลาด ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ โดยบางจากฯ ได้ขยายการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับเทรนด์การเปลี่ยนผ่านพลังงาน รวมถึงให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ ตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) และได้ก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อรองรับและสนับสนุนการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ร่วมกระตุ้นตลาดคาร์บอนเครดิตในประเทศและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ การชดเชยคาร์บอน และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมสร้างการตระหนักรู้ในวงกว้าง ด้วยการสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ
ทั้งนี้ บางจากฯ ได้ร่วมสร้าง ecosystem เพื่อรองรับผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ผ่านสตาร์ทอัพภายในบริษัทฯ Winnonie แพลตฟอร์มให้เช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการกว่า 700 ราย และมีจุดสลับแบตเตอรี่กว่า 100 จุด นอกจากนี้ ยังใช้พื้นที่สถานีบริการบางจาก
เป็นจุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ on the go เพื่อความสะดวกของผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าระหว่างการเดินทาง จำนวนกว่า 200 จุด (เกือบ 800 หัวจ่าย) ทั่วประเทศ และจากการที่ปัจจุบันบางจากฯ
มีเครือข่ายสถานีบริการรวมประมาณ 2,200 แห่ง ทำให้เป็นโอกาสในการขยายจุดให้บริการชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้สถานีบริการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าผ่านช่องทางบริการที่เพิ่มขึ้นได้ โดยบางจากฯ มุ่งมั่นในการพัฒนาขับเคลื่อนสถานีบริการให้เป็น
“Your Greenovative Destination for Intergenaration จุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถที่มาใช้บริการทุกช่วงวัย
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลัก คือ 1) กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ผู้นำด้านการกลั่นน้ำมันของประเทศ ด้วยกำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นน้ำมันแบบ Complex Refinery มาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง คือโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขยายสู่ธุรกิจการค้าน้ำมัน
ผ่านบริษัทบีซีพี เทรดดิ้ง (BCPT) และต่อยอดเครือข่ายธุรกิจขนส่งเชื้อเพลิง ผ่านบริษัทกรุงเทพขนส่งเชื้อเพลิงทางท่อและโลจิสติกส์ (BFPL) รวมถึงลงทุนในธุรกิจเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF ผ่านบริษัทบีเอสจีเอฟ (BSGF) 2) กลุ่มธุรกิจการตลาด ส่งมอบ Greenovative Experience ผ่านเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ non-oil เช่น กาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio EV Charger รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหารหลากหลายและนำระบบดิจิทัลมาส่งมอบประสบการณ์ทันสมัย สะดวก ปลอดภัย ให้กับผู้ใช้บริการ 3) กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด และการนำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการการใช้พลังงานของผู้บริโภคและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดย บมจ. บีซีพีจี ผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค 4) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของประเทศและขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง 5) กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ ที่เป็นที่ยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุด
ในโลกประเทศหนึ่ง และมีกลุ่มธุรกิจขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ ๆ (New Frontier Businesses) อาทิ ธุรกิจแพลตฟอร์มให้บริการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า Winnonie และสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เน้นการลงทุนในธุรกิจใหม่ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งช่วยสร้างระบบนิเวศสำหรับนวัตกรรมสีเขียว
นอกจากนี้ ยังได้ก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต และร่วมก่อตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งอนาคต SynBio Consortium
บางจากฯ ได้รับการประเมินจาก S&P Global CSA ผู้จัดทำการประเมินความยั่งยืนดัชนี DJSI ได้คะแนนการประเมินสูงเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil & Gas Refining and Marketing และได้รับการประเมิน MSCI ESG Rating ระดับ AA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดขององค์กรในธุรกิจพลังงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 กลุ่มบริษัทบางจากตั้งเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2050