บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับคะแนนสูงสุดด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในอุตสาหกรรมการตลาดและการกลั่นน้ำมันและก๊าซเป็นปีที่ 8 จากการประเมินผล DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) สะท้อนมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในระดับสากล และยังได้รับการรับรองเป็นสมาชิก DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 จากการประเมินดัชนีความยั่งยืนของ S&P Global ผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเงิน และการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก
บัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP กล่าวว่า “จากผลการประเมินครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ไทยออยล์ยังคงรักษาผลงานอันโดดเด่นในด้านความยั่งยืนระดับสากล ด้วยนโยบายมุ่งเน้นการบูรณาการทั้ง 3 มิติ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและธรรมาภิบาล อย่างสมดุล
ในด้านสิ่งแวดล้อม ไทยออยล์กำหนดเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ภายในปี 2603 โดยดำเนินการตามแผนกลยุทธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของบริษัทด้วยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง สำหรับด้านสังคม ไทยออยล์ได้ดำเนินโครงการต่างๆ ให้กับชุมชนรอบโรงกลั่นและสังคมที่อยู่ห่างไกล ครอบคลุมด้านการศึกษา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลังงาน และคุณภาพชีวิต ผ่านโครงการต่างๆ โดยในปีนี้ได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ให้กับโรงพยาบาล 3 แห่ง ในจังหวัดชลบุรี และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน 5 แห่ง ในจังหวัดตาก ส่วนด้านธรรมาภิบาล มีนโยบายกำกับดูแลกิจการที่ดี ดำเนินงานอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม รวมถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ต่อต้านการทุจริต ซึ่งได้รับรางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นปีที่ 4 รวมทั้งคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน และในด้านธุรกิจ ไทยออยล์ได้มีการยกระดับแผนกลยุทธ์ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ควบคู่กับกำหนดเป้าหมายสัดส่วนกำไรระยะยาวในปี 2573 ให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก และลดผลกระทบจากความผันผวนของธุรกิจการกลั่นน้ำมัน โดยมุ่งสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”
บัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า “ไทยออยล์มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จระดับโลก ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 8 แล้วที่ไทยออยล์ได้รับการประเมินอยู่ในอันดับสูงสุด และยังได้รับการรับรองเป็นสมาชิก DJSI เป็นปีที่ 11 ต่อเนื่อง ซึ่งการประเมินดังกล่าวสะท้อนถึงมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพ พัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนในระดับสากล มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมทั้งดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส และคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน” เป็นองค์กรที่พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนสู่การเป็นองค์กร 100 ปี”