ซีลวาเนีย ถือฤกษ์ดีครบรอบ 30 ปี ประกาศเดินหน้าชิงตลาดหลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่าง 2 หมื่นล้าน รอบใหม่ หลังปรับโครงสร้างองค์กรลงตัว ล่าสุดเปิดแผนการตลาดแนวรุกทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และช่องทางการจำหน่าย พร้อมสร้างทีมขายเจาะร้านค้าปลีกทั่วไทย เพื่อเข้าถึงผู้ใช้งานทุกพื้นที่ เผยผลงานปี 66 โตก้าวกระโดด 20% คาดปี 67 โตเพิ่มได้อีกกว่า 20%
ประภัทร์ ศรีธนานุรักษ์ รองผู้จัดการประจำประเทศ บริษัท เฟโล ซีลวาเนีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึง ความพร้อมในการกลับมารุกตลาดหลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่างรอบใหม่ว่า ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ ซีลวาเนีย มีการเคลื่อนไหวด้านการตลาดไม่มากนัก เนื่องจากบริษัทฯ มีการปรับโครงสร้างองค์กร ประกอบกับสถานการณ์โควิดทำให้การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเป็นไปอย่างมีข้อจำกัด โดยในปีที่ผ่านมา 2566 มูลค่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์หลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่างของไทยอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 3-5% ซึ่งในปีนี้ 2567 นับเป็นปีพิเศษที่ ซีลวาเนีย ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบรอบ 30 ปี จึงถือโอกาสประกาศความพร้อมในการกลับเข้ามาชิงแชร์ตลาดอย่างเต็มตัวในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และทุกช่องทางการจัดจำหน่าย
โดยการบุกตลาดรอบใหม่นี้ จะชูจุดแข็งที่ทำให้ ซีลวาเนีย ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของแบรนด์ที่ยาวนานกว่า 120 ปี การปรับตัวและพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งจนทำให้ ซีลวาเนีย มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครบและเหมาะสมกับทุกประเภทของการใช้งาน จากโรงงานผลิตของเราเองทั้งในประเทศจีนและยุโรป การมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำปรึกษา ทั้งในเรื่องผลิตภัณฑ์ การวางระบบและการแก้ปัญหา รวมถึงผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นยังได้รับการพัฒนาด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเฉพาะจาก ซีลวาเนีย ที่ให้ทั้งคุณสมบัติพื้นฐาน ปริมาณแสงส่องสว่าง การประหยัดพลังงาน อายุการใช้งานนาน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานด้วยเทคโนโลยีช่วยให้สะดวกและใช้งานได้หลากหลายขึ้นในรูปแบบของอุปกรณ์ไฟอัจฉริยะ (Smart Lighting)
ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของ ซีลวาเนีย แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับอาคารและที่พักอาศัย กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับงานโครงการและงานตกแต่งภายใน-ภายนอก และกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับงานเฉพาะ อาทิ ไฟสำหรับใช้งานในพิพิธภัณฑ์ ไฟที่ใช้ในโชว์รูม เสาไฟฟ้าพร้อมผลิตภัณฑ์ไฟส่องสว่างอัจฉริยะ (Smart Pole) นอกจากนั้นยังเพิ่มเติมในกลุ่มอุปกรณ์ประกอบเกี่ยวเนื่องอย่าง สวิตซ์ ปลั๊ก ตู้ไฟ ฯลฯ สำหรับปี 2566 ผลิตภัณฑ์กลุ่มใหญ่ที่มีสัดส่วนยอดขายมากสุดยังคงเป็นกลุ่มงานโครงการ
ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทางบริษัทฯ มีการพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในทุกช่องทาง ทั้งโมเดิร์นเทรด กลุ่มงานโครงการ และช่องทางออนไลน์ แต่ช่องทางที่เป็นอาวุธลับสำคัญในวันนี้ คือ ร้านค้าและร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร้านค้าเหล่านี้มีความพิเศษในด้านความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับลูกค้าผู้ใช้งาน สามารถแนะนำและผลักดันการตัดสินใจเลือกใช้สินค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ปีที่ผ่านมา 2566 ซีลวาเนีย เริ่มมีการจัดตั้งทีมขายเพื่อเจาะเข้าช่องทางร้านค้าและร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าขึ้นในทุกภูมิภาค สิ่งที่ได้รับนอกจากความสัมพันธ์ที่ดีกับทางร้านค้าและการเข้าถึงผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ในวงกว้างแล้ว ยังได้รับข้อมูลเชิงลึกของทั้งร้านค้า ผู้ใช้งาน คู่แข่ง ข้อมูลตลาดและการตลาดของคู่แข่ง โดยเรามีการนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และพัฒนาสร้างแผนการตลาดเชิงรุกให้แก่ ซีลวาเนีย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งให้ยอดขายรวมทั้งปีที่ผ่านมาเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 20%
ดังนั้น แผนการตลาดในปี 2567 ของ ซีลวาเนีย จะมีการรุกในช่องทางร้านค้าและร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้ามากขึ้น เบื้องต้นทางบริษัทฯ มีการจัดตั้งทีมขายทั่วประเทศขึ้น 12 ทีม เพื่อทำงานร่วมกับ 300 ร้านค้าที่มีอยู่ในมือ โดยพร้อมที่จะขยายเพิ่มเติมในการรองรับการเติบโตและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยทีมขายจะต้องทำงานร่วมกับร้านค้าอย่างใกล้ชิด ทั้งรับฟังความคิดเห็น เลือกผลิตภัณฑ์ในการทำตลาดให้เหมาะสมกับลูกค้าในพื้นที่ การจัดพื้นที่โชว์สินค้าในร้าน การทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ฯลฯ ซึ่งแผนการรุกตลาดและการร่วมมือกับพันธมิตรร้านค้าในการทำตลาดอย่างใกล้ชิดทำให้คาดว่าปี 2567 จะสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายรวมได้เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 20%
ส่วนกิจกรรมพิเศษในโอกาสครบรอบ 30 ปีนั้น นอกจากจะมีการจัดเลี้ยงขอบคุณคู่ค้า ตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าแล้ว ยังมีการเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่อีกหลายกลุ่ม อาทิ สวิตซ์ ปลั๊ก ตู้ไฟ และ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับงานภายในอาคาร (Indoor Lighting) เช่น โรงแรม ร้านอาหาร อาคารที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับตกแต่งร้าน (Shop Lighting) ตกแต่งสวน (Landscape Lighting) ผลิตภัณฑ์กลุ่มนวัตกรรม (Special Project) เช่น ไฟสนามกีฬา ไฟถนน ฯลฯ รวมถึงยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมกับทั้งโรงเรียน วัด และชุมชนอีกด้วย