กระทรวงพลังงาน นำทัพ 70 องค์กรชั้นนำภาครัฐเอกชน ร่วมประกาศเจตนารมณ์เครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน เดินหน้าปลุกกระแสอนุรักษ์พลังงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม สร้างต้นแบบองค์กรใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูง ตั้งเป้าช่วยไทยลดการนำเข้าพลังงานกว่า 5,400 ล้านบาท/ปี เทียบเท่าแอลเอ็นจี 90,000 ตัน บรรเทาผลกระทบวิกฤตราคาพลังงานอย่างยั่งยืน
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน กิจกรรมประกาศเจตนารมณ์เครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน “Energy Beyond Standards” โดยมี ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน พร้อมด้วยนายนพดล ปิ่นสุภา รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม พิชัย จิราธิวัฒน์ ที่ปรึกษาหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะทำงานด้านพลังงาน หอการค้าไทยและ ดร.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับองค์กรภาครัฐ เอกชนชั้นนำกว่า 70 แห่ง แสดงความมุ่งมั่นร่วมกันดำเนินการอนุรักษ์พลังงานภายในองค์กร พร้อมกระตุ้นให้เกิดกระแสความความร่วมมือด้านการอนุรักษ์พลังงานเพิ่มขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากการผันผวนของราคาพลังงาน
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ฯ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้เร่งผลักดันนโยบายการอนุรักษ์พลังงานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ ซึ่งถือเป็นภาคส่วนที่มีการใช้พลังงานสูงให้เกิดการใช้พลังงานอย่างประสิทธิภาพ โดยการประกาศเจตนารมณ์จากภาครัฐและเอกชนทั้ง 70 องค์กรในวันนี้ จะเป็นก้าวสำคัญให้เกิดการสร้างเครือข่ายด้านอนุรักษ์พลังงาน สร้างความร่วมมือการให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้จากมาตรการที่หน่วยงานแต่ละแห่งจะดำเนินการเพื่อการอนุรักษ์พลังงานนั้น นอกจากจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าในองค์กรแล้ว คาดว่าจะส่งผลในภาพรวมเกิดการลดใช้ไฟฟ้าได้กว่า 675 ล้านหน่วย/ปี ลดค่าใช้จ่ายการนำเข้าพลังงานของประเทศได้สูงถึง 5,400 ล้านบาท/ปี เทียบเท่าแอลเอ็นจี 90,000 ตัน บรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 296,000 ตันคาร์บอน/ปี อีกทั้งช่วยขับเคลื่อนนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย เพื่อบรรลุสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ให้ได้ ในปี ค.ศ. 2050
ด้าน ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดี พพ. กล่าวว่า การประกาศเจตนารมณ์เครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน “Energy Beyond Standards” พพ. ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาชิกสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย สมาชิกสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และองค์กรชั้นนำรวมทั้งสิ้นจำนวน 70 แห่ง อาทิ กลุ่มบริษัท เครือปตท. เครือเซ็นทรัล ค่ายรถยนต์โตโยต้า และบริษัท SCG เป็นต้น โดยทุกองค์กรที่มาร่วมกันจะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยก้าวข้ามวิกฤติด้านพลังงาน ด้วยการดำเนินการอนุรักษ์พลังงานในองค์กร ทั้งนี้ พพ. จะให้การสนับสนุนด้านเทคนิค การฝึกอบรมให้ความรู้ การให้คำปรึกษาและแนะนำ ตลอดจนเผยแพร่ผลสำเร็จและความรู้ด้านอนุรักษ์พลังงานสู่สาธารณชน กระตุ้นทุกภาคส่วนให้เกิดความตระหนักและเกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับตัวอย่างมาตรการเพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ความร่วมมือในกิจกรรมฯ ครั้งนี้ จะมีมาตรการทั้งด้านอนุรักษ์พลังงาน การใช้พลังงานทดแทน ที่เกิดผลสัมฤทธิ์สูงและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้กว้างขวางมากขึ้น อาทิ มาตรการลดการสูญเสียพลังงานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงปรับเปลี่ยนเครื่องจักรอุปกรณ์ โดยใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง มาตรการติดตั้งระบบ Monitoring and Control เพื่อประเมินค่าการใช้พลังงาน และการนำพลังงานทดแทนมาใช้งาน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวมวล และ ระบบพลังงานชีวภาพ ร่วมกับระบบควบคุมการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
โดยหลังจากนี้ พพ.จะมีการติดตามผลการประหยัดพลังงาน รายงานผ่านระบบ Online และจัดตั้ง Energy Clinic ในการให้คำปรึกษาทั้งด้านการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน ตลอดจนให้คำแนะนำแหล่งเงินลงทุน โดยผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้ไว้รองรับกิจกรรมนี้ด้วยแล้ว ดร.ประเสริฐ กล่าว