โดย นายซานโตช วิศวะนาธาน รองประธานฝ่ายกลุ่มการขาย การตลาด และการสื่อสาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเทล ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นนอกจากจะช่วยเร่งให้อุตสาหกรรมต่างๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็วแล้ว ยังจุดกระแสความสนใจต่อการเปิดตัวบริการ 5G ทั่วภูมิภาคอาเซียนให้ทวีความสำคัญยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยถือว่าอยู่ในจุดที่นำหน้าประเทศอื่น โดยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคที่เปิดบริการ 5G เชิงพาณิชย์ในปี 2563 ตลาด 5G ในไทยมีศักยภาพพร้อมที่จะเติบโต โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คาดการณ์ว่า ภายในปี 2565 ตลาด 5G จะมีมูลค่าสูงถึง 15.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ 5G อยู่หลายประการ ที่อาจทำให้ผู้คนเข้าใจศักยภาพที่แท้จริงของเทคโนโลยีนี้คลาดเคลื่อนได้ ลองมาดูกันว่าความเชื่อผิดๆ นั้นมีอะไรบ้าง และความจริงแล้วคืออะไร
ความเข้าใจผิด: 5G ไม่สามารถใช้งานได้ตามที่โฆษณาไว้
ความเป็นจริง: ในขณะที่เครือข่ายมีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยี 5G จะยังคงเร่งความเร็วเพื่อบรรลุศักยภาพสูงสุดต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ปัจจุบัน 5G ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นใช้งาน โดยมีผู้ให้บริการเปิดตัวความพร้อมใช้งานของ 5G อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะใช้เวลา แต่ผู้ใช้งานจะเริ่มเห็นคุณสมบัติใหม่ๆ ของ 5G เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้น
ความเข้าใจผิด: การมาถึงของ 5G หมายถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น
ความเป็นจริง: อุตสาหกรรมได้มีการรับมือต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นด้วยการเพิ่มมาตรการควาบคุมในด้านกลไกการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการสื่อสารที่เพิ่มมากขึ้น เช่น ในการสร้างมาตรฐาน 5G NR (5G New Radio) อุตสาหกรรมได้ “เสริม” ฟังก์ชันความปลอดภัยแบบใหม่สำหรับ 5G โดยเริ่มต้นที่ระดับมาตรฐาน อันที่จริง อินเทลเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในด้านการคำนวณลดต้นทุนการเข้ารหัสลับ (cryptographic algorithms) ผ่านนวัตกรรมใหม่ การกำหนดการใช้งาน การพัฒนาสถาปัตยกรรมขนาดเล็ก และเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์รูปแบบใหม่ๆ
ในขณะที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับนโยบายประเทศไทย 4.0 และมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของอาเซียน รวมถึงของเครือข่าย 5G จะช่วยเร่งให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ อินเทอร์เน็ตออฟติงส์ (Internet of Things: IoT) และการเรียนรู้ของเครื่องจักรกล ในขณะเดียวกัน แบนด์วิดธ์ที่เพิ่มเข้ามา และค่าความหน่วงต่ำของ 5G ก็มีศักยภาพมากพอที่จะปฏิวัติวงการธุรกิจทั้งหลาย รวมถึงขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจและการสร้างงาน และกำหนดนิยามการใช้ชีวิตของผู้คนใหม่ทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องเข้าใจให้ถูกต้องและได้รับข้อมูลที่เป็นจริงมากขึ้นเกี่ยวกับประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G เพื่อให้เราสามารถดึงเอาศักยภาพของมันมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น