การทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติ : ระบบอัตโนมัติเป็นกุญแจสำคัญในการกำกับดูแลความปลอดภัยและก่อให้เกิดวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกัน


การทำงานร่วมกันแบบอัตโนมัติ : ระบบอัตโนมัติเป็นกุญแจสำคัญในการกำกับดูแลความปลอดภัยและก่อให้เกิดวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกัน

การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กรกำลังได้รับการพิจารณาตรวจสอบอย่างจริงจัง เพราะการโจมตีทางไซเบอร์และการละเมิดสิทธิ์กำลังแพร่กระจายมากขึ้น มาสสิโม เฟอรารี่ ผู้จัดการฝ่ายที่ปรึกษาด้านผลิตภัณฑ์ ซึ่งดูแลผลิตภัณฑ์ Ansible Security Automation ของเร้ดแฮท กล่าวถึงวิธีการที่ระบบอัตโนมัติสามารถช่วยให้การทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยต่างๆ รวมเป็นหนึ่งเดียวและเปิดโอกาสให้ผู้ดูแลด้านไอทีและผู้เกี่ยวข้องทางธุรกิจทุกฝ่ายสื่อสารกันได้

บริษัทในกลุ่ม FTSE 100 หรือ Fortune 500 มีการใช้ชุดกฎระเบียบในการป้องกันภัยไซเบอร์ที่ใหญ่โตและซับซ้อน บริหารจัดการโดยทีมงานด้านความปลอดภัยหลายทีมที่กระจายกันอยู่ตามหน่วยธุรกิจและภูมิภาคต่างๆ ต้องใช้ความพยายามที่สูงมากในการทำให้ข้อมูลขององค์กรหนึ่งๆ มีความปลอดภัย แต่ถึงแม้ว่าทีมงานที่ดูแลด้านการรักษาความปลอดภัยจะท่มุ เทอย่างมากและมีเตรียมการอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ทีมงานก็ยังขาดรูปแบบ (Framework) และการสื่อสารพื้นฐานที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่ายๆ เพื่อใช้สื่อสารความคิด แผนการออกแบบ และกระบวนการต่างๆ ให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจได้

ระบบอัตโนมัติ

สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจะสำเร็จได้ด้วยการใช้เวิร์กโฟลว์และกระบวนการทำงานที่เป็นอัตโนมัติ ที่ทำงานด้วยภาษาสากลที่สามารถโปรแกรมได้ อย่างไรก็ตาม ภาษาที่ใช้จะต้องเป็นภาษาที่ทุกคนเข้าถึงได้ เข้าใจง่าย เขียนง่าย เพื่อให้สามารถนำข้อมูลมาจัดทำเป็นเอกสาร และส่งไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทุกคนที่มีความชำนาญในการใช้โดเมนที่แตกต่างกัน

นอกจากนี้ระบบอัตโนมัติที่จะนำมาใช้ควรรองรับวิธีการทำงานที่ใครก็สามารถเข้าใช้งานได้ มากกว่าจะเป็นระบบปิดที่มีกรรมสิทธิ์ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบนิเวศด้านการรักษาความปลอดภัยอันซับซ้อนที่มีอยู่ในองค์กรขนาดใหญ่เสียสมดุลได้ โดยสรุปแล้วระบบจำเป็นต้องได้รับการออกแบบในลักษณะแยกเป็นโมดูลเพื่อให้สามารถรองรับเครื่องมือรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จำนวนมากที่องค์กรขนาดใหญ่นำมาใช้เพิ่มขึ้นตลอดเวลาได้

ทีมงานด้านไอทีและระบบเน็ตเวิร์กมีการใช้ระบบอัตโนมัติมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นการช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมในการทำงานร่วมกันระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบไอทีทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามการนำระบบอัตโนมัติมาใช้เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ซึ่งทีมไอทีต้องมองหาและนำเครื่องมือต่างๆ มาทำงานร่วมกันให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา เพื่อใช้สนับสนุนโปรแกรมอัตโนมัติที่ทำงานได้อย่างครบวงจร การที่ระบบรักษาความปลอดภัยได้ผสานรวมอย่างแน่นหนาอยู่กับแผนกไอที จะช่วยให้ทีมทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยทุกทีม รวมถึงการทำงานบนโปรโตคอลที่แตกต่างกัน มีโอกาสใช้และได้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติเช่นกัน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นผู้บริหารระดับสูงของฝ่ายไอทีเช่น ประธานฝ่ายสารสนเทศ (CIO) และประธานฝ่ายเทคนิค (CTO) เข้ามามีบทบาทในระดับบริหารและมีอิทธิพลต่อการกำหนดกลยุทธ์ขององค์กรมากขึ้น และด้วยความตระหนักถึงการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้น มีการคาดการณ์ว่าในอีกไม่นานคณะกรรมการบริหารขององค์กรจะพิจารณาให้ประธานฝ่ายความปลอดภัย (CSO) และประธานฝ่ายความปลอดภัยข้อมูล (CISO) เข้ามามีส่วนในการกำหนดทิศทางกลยุทธ์ขององค์กรด้วยเช่นกันเมื่อผู้บริหารระดับสูงของฝ่ายความปลอดภัยได้เข้าไปมีบทบาทในระดับสูงสุดขององค์กร ทีมงานของฝ่ายความปลอดภัยก็ควรมีบทบาทในหน่วยงานทั้งหมดขององค์กรด้วย โดยการใช้องค์ประกอบที่เหมาะสม (ภาษาที่เป็นสากล ระบบที่ทุกคนสามารถเข้าใช้งานได้ และการออกแบบโมดูลที่เป็นมาตรฐาน) ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะสามารถช่วยสนับสนุนเวิร์กโฟลว์ และกระบวนการอัตโนมัติที่สามารถดูแลเรื่องความปลอดภัยภาพรวมเป็นหนึ่งเดียวกับหน่วยงานต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย เช่น อุปกรณ์ปลายทาง (Endpoint) เน็ตเวิร์ก และการรักษาความปลอดภัยข้อมูล การบริหารจัดการกลุ่มคน กระบวนการ และแอปพลิเคชัน จำนวนมาก อาจมีโอกาสเกิดความเสี่ยงขึ้นได้หากไม่ได้ใช้เวิร์กโหลดที่เป็นระบบอัตโนมัติ

ระบบรักษาความปลอดภัยแบบอัตโนมัติเป็นโซลูชันที่ดีเยี่ยมเพื่อใช้ขจัดความท้าทายดังกล่าวด้วยการรวมวิธีการรักษาความปลอดภัยที่แตกต่างกันเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยการใช้ชุดเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคต่างๆ ที่มีอยู่ และช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถจัดให้ผู้ร่วมงานเข้าถึงระบบและแอปพลิเคชันต่างๆ ได้โดยการสื่อสารกับแต่ละคนผ่านสคริปต์อัตโนมัติที่มีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีจัดการงานเฉพาะด้านต่างๆ อย่างชัดเจน และเจ้าของระบบสามารถจัดให้มีการเข้าถึงระบบและเครือข่ายได้มากเท่าที่ต้องการเพื่อช่วยให้ผู้ร่วมงานมีแนวคิดใหม่ๆ ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลองค์กรมากขึ้น รวมทั้งมีความรู้สึกวางใจและปลอดภัยที่ได้ทราบว่าระบบของพวกเขาจะไม่ถูกบุกรุก หรือสิทธิ์ของพวกเขาจะไม่ถูกละเมิด อย่างไรก็ตาม หากโซลูชันด้านระบบอัตโนมัติไม่ได้ใช้ภาษาที่ทุกคนเข้าใจ ทีมงานจะต้องเผชิญกับโค้ดและคำศัพท์ที่มีแต่นักพัฒนาซอฟต์แวร์เท่านั้นที่จะเข้าใจได้

ดังนั้นผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการด้านการรักษาความปลอดภัยจึงรับรู้และมองเห็นการทำงานของฟังก์ชันด้านความปลอดภัยทั้งหมดที่มี ในขณะเดียวกัน ทีมงานของพวกเขาก็จะสามารถโต้ตอบและเรียนรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบของแต่ละคนมีการพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น และแบ่งปันความรับผิดชอบร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ความไม่สมัครใจที่ต้องร่วมกันรับผิดชอบที่เกิดขึ้นในอดีตนั้น เกิดจากการทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยที่เป็นแบบต่างคนต่างทำมากกว่าเกิดจากการขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

เฟรมเวิร์ก

องค์กรสามารถเลือกใช้เฟรมเวิร์กที่แตกต่างกันซึ่งมีอยู่อย่างมากมายได้ แต่หากระบบอัตโนมัติที่จะเลือกมาใช้นั้นทำงานอยู่บนมาตรฐานระบบเปิด (Open Standard) ก็จะเป็นประโยชน์มากขึ้นเพราะตัวระบบจะมีการออกแบบที่ทุกคนสามารถเข้าใช้งานได้ ซึ่งช่วยให้การดำเนินงานด้านความปลอดภัยสามารถพัฒนาเป็นเวิร์กโฟลว์ที่มีโครงสร้างที่สามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม SOAR และแอปพลิเคชัน SIEM ที่มีอยู่ได้ ซึ่งเป็นการช่วยเสริมศักยภาพได้เป็นอย่างดี

เฟรมเวิร์กของการรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติที่เป็นระบบเปิดที่มีประสิทธิภาพจะเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ที่ใช้งานอยู่ในทุกส่วนขององค์กรผ่านเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถออกแบบและสร้างโค้ดที่ขับเคลื่อนให้เกิดกระบวนการทำงานใหม่ๆ และลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ได้ความต่อเนื่องที่เกิดตามมาก็คือ ทีมงานด้านความปลอดภัยสามารถออกชุดปฏิบัติการต่างๆ ให้กับผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่แตกต่างกันได้เร็วขึ้นอย่างมาก

ระบบอัตโนมัติทำให้การทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยเป็นไปด้วยจิตใจที่เปิดกว้าง และพร้อมทำงานร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงที่จะสำเร็จได้อย่างแท้จริงนั้นยังขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านบุคลากร และความสามารถในการทำให้ทีมที่แตกต่างกันมานั่งลงหารือร่วมกันได้ว่าจะทำงานร่วมกันอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน


Source: นิตยสาร Electricity & Industry Magazine ปีที่ 27 ฉบับที่ 4 กรกฎาคม-สิงหาคม 2563
คอลัมน์ IT Article โดย มาสสิโม เฟอรารี่ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ – Ansible Security Automation, เร้ดแฮท


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save