บริษัท ฮีมา กรุ๊ป เป็นผู้นำระดับโลกด้านการจัดหาโซลูชันความปลอดภัยอัจฉริยะสำหรับแอปพลิเคชันอุตสาหกรรมต่างๆ วิศวกรผู้เชี่ยวชาญของบริษัทได้พัฒนาโซลูชันที่พร้อมปรับแต่งให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัย การป้องกันความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ และทำให้โรงงานทำกำไรได้ในยุคดิจิทัล บริษัท ฮีมา ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1908 ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 50 แห่งทั่วโลก สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบรูเอห์ ประเทศเยอรมนี
บริษัท ฮีมา ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ เคมีภัณฑ์ และบริษัทผลิตพลังงานรายใหญ่สุดของโลก ซึ่งใช้โซลูชัน บริการและการให้คำปรึกษาของบริษัท ฮีมา เพื่อให้การดำเนินงานในโรงงานเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งยังช่วยปกป้องทรัพย์สิน ผู้คน และสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัยมากยิ่งกว่าเดิม
ทั้งนี้ ยังครอบคลุมถึงโซลูชันความปลอดภัยอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและช่วงเวลาการทำงานที่ต่อเนื่องโดยที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นสารสนเทศสำคัญที่ธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัท ฮีมา ยังมีโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับการควบคุมและการตรวจสอบเครื่องจักรกลเทอร์โบ (TMC) เตาเผาและหม้อไอน้ำ (BMC) และท่อ (PMC) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับในอุตสาหกรรมรถไฟทั่วโลก ระบบควบคุมความปลอดภัย SIL4 COTS ที่ได้รับการรับรองจาก CENELEC ของบริษัท ฮีมา เป็นผู้นำในด้านการเพิ่มความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยและการทำกำไรให้กับองค์กร
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ฮีมา ได้จัดงาน ฮีมา ยูสเซอร์ คอนเฟอเร็นซ์ เอเชีย แปซิฟิก 2018 (HIMA Users Conference Asia Pacific 2018) เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 24-25 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมำ
การประชุมที่จัดขึ้นนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรม 4.0 ซเบอร์ซิเคียวริตี้ ความปลอดภัยในอุตสาหกรรม และแนวโน้มอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ จากวิทยากรชั้นนำ เช่น สตีเฟ่น ฟิลิปป์ ผู้จัดการด้านพันธมิตร บริษัท ฮีมา สันการ์ รามากริสนัน ซีอีเอ บริษัท ฮีมา ทวีลาภ พรกุล รองประธานบริษัท พีทีที เอนเนอร์ยี่ โซลูชั่น และ บ๊อบ กิลล์ ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก บริษัท เออาร์ซี แอดไวเซอรี่ กรุ๊ป
เซฟเคียวริตี้ (Safecurity) สำหรับอุตสาหกรรม
ปัจจุบันทั้งความปลอดภัย (Safety) และระบบการรักษาความปลอดภัย (Security) ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญ “เซฟเคียวริตี้” (Safecurity) เป็นวิวัฒนาการของบริษัท ฮีมา ในการให้ความสำคัญกับการนำความปลอดภัยและระบบการรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะมาผสานรวมสำหรับแอปพลิเคชันในภาคอุตสาหกรรม ในขณะที่โลกกำลังพยายามปกป้องและป้องกันแฮกเกอร์ในอีคอมเมิร์ซ การบริการด้านการเงิน การดูแลสุขภาพ หน่วยงานภาครัฐ และภาคส่วนอื่นๆ แต่ภาคส่วนอุตสาหกรรมมักถูกละเลยในแง่ของความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์
บริษัท ฮีมา ได้ผสานรวมความปลอดภัยและระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้โรงงานและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันภายใต้แรงกดดันและไม่ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีทางไซเบอร์ได้โดยง่าย จะเห็นได้ว่า 9 ใน 10 ของบริษัทก๊าซที่ใหญ่ที่สุดและ 10 ใน 10 ของบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกต่างพึ่งพำเทคโนโลยีและโซลูชันของบริษัท ฮีมา โดยดำเนินการภายใต้แนวทาง “มาตรฐาน คือ ทุกสิ่ง” ตลอดจนพัฒนาโซลูชันต่างๆ ของบริษัทให้สอดคล้องกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับสูงสุด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดและเตรียมพร้อมรับมือสำหรับอนาคต
นอกจากนี้ กลุ่มนักวิเคราะห์ชั้นนำอย่างบริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ยังได้ให้การยกย่องบริษัท ฮีมา (HIMA) เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 ด้วยการมอบรางวัลการเป็นผู้นำยอดเยี่ยมด้านระบบความปลอดภัยในกระบวนการทำงานของเอเชีย แปซิฟิก “Asia Pacific Process Safety System Growth Excellence Leadership Award” การได้รับรางวัลในครั้งนี้ยังบังเอิญตรงกับปีนี้ที่บริษัท ฮีมา ครบรอบ 110 ปีของการก่อตั้งบริษัทด้วย
เดินหน้าสู่ประเทศไทยด้วยการจัดเวทีเสริมสร้างองค์ความรู้
ฟรีดแฮล์ม เบสท์ รองประธานประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก บริษัท ฮีมา กล่าวว่า “ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานเพื่อรองรับผู้เข้าร่วมงานในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ รวมถึงเคมีภณั ฑ์ที่ทันสมัยที่สุดแหง่ หนึ่งของภมู ิภาค โดยมีเจา้ หน้าที่ผ้ปู ฏิบัติงานจากประเทศและภูมิภาคต่างๆ ต้องการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความร้คู วามเข้าใจในการปฏิบัติงานของตน เนื่องจากในปัจจุบันสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในภาคอุตสาหกรรมเริ่มพบกับความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น อันเป็นผลสืบเนื่องของอุตสาหกรรม 4.0 และอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ สำหรับภาคอตุ สาหกรรม (Industrial Internet of Things : IIoT) และจากกรณีที่เกิดปัญหาการบุกรุกระบบรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์และการบังคับให้องค์กรต่างๆ ในภาคส่วนอุตสาหกรรมต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้ขณะนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างความมั่นใจที่นอกเหนือจากการที่โรงงานอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญๆ จะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดปัญหาแล้ว ยังจะต้องมั่นใจด้วยว่าแฮกเกอร์จะไม่สามารถเข้าโจมตีโรงงานและโครงสร้างพื้นฐานในภาคอุตสาหกรรมได้”
“หลังจากติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองจากทูฟ (TÜV) มากกว่า 35,000 แห่งทั่วโลกในช่วง 45 ปีที่ผ่านมาเราก็ได้ริเริ่มปรัชญาที่เรียกว่า เซฟเคียวริตี้ (Safecurity) ซึ่งเป็นการผสานรวมแนวทางด้านความปลอดภัยและระบบการรักษาความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างแนบแน่น เพื่อป้องกันและคุ้มครองให้การดำเนินงานของโรงงานและโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลกเป็นไปอย่างปลอดภัยและมั่นคง สำหรับการประชุม ยูสเซอร์ คอนเฟอเรนซ์ 2018 ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ เป็นการรวมตัวของวิทยากรชั้นนำและผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์จากหลากหลายสาขาอุตสาหกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียนรู้และแบ่งปันความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพันธกิจและข้อมูลเชิงลึกของเซฟเคียวริตี้ ที่สามารถนำไปดำเนินการได้จริง”
ผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซที่สำคัญของไทยประมาณ 70% กำลังจะมารวมตัวกันในงานฮีมา ยูสเซอร์ คอนเฟอเรนซ์ เอเชีย แปซิฟิก 2018 เพื่อค้นหาแนวทางปฏิบัติที่เป็นประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระบวนการที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและห่วงโซ่คุณค่า รวมถึงความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ จะเห็นได้ว่าผลกำไรขององค์กรในอุตสาหกรรมแห่งนี้กำลังเป็นเรื่องที่สวนทางกับการกำหนดราคาและการปฏิบัติงานข้ามพรมแดนทั่วโลก ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพิจารณาแนวทางที่ดีกว่าในการทำกำไรและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน การประชุมในครั้งนี้จะเป็นการระดมความคิดที่ดีที่สุดเพื่อกำหนดสถานการณ์ที่เหมาะสมในการทำกำไรและเสริมสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนในหลายๆ กรณี นอกจากนี้ยังเป็นเวทีที่ดีเยี่ยมในการสร้างเครือข่ายกับเพื่อนร่วมงานและพันธมิตรรายใหม่ๆ ด้วย