นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผยว่า กฟผ. จำเป็นต้องปรับโครงสร้างองค์กร ให้สอดคล้องกับความต้องการการใช้ไฟฟ้าของทุหกภาคส่วน ตามแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2561-2580 หรือแผน PDP2018 และรับมือกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป รวมถึงรูปแบการผลิตไฟฟ้าที่มีหลากหลายมากขึ้น
ทั้งนี้ กฟผ. ตั้งเป้า ลดขนาดองค์กรณ์ โดยภายใน 7 ปี พนักงาน กฟผ. จะลดเหลือที 1.5 หมื่นคน จากปัจจุบันที่มี 2 หมื่นคน โดยจะเป็นการลดขนาดองค์กร โดยไม่มีนโยบายให้คนออก แต่เมื่อพนักงานเกษียณอายุจะไม่รับเข้าจำนวนมาก โดยจะพิจารณาให้สอดคล้องกับความต้องการ เช่น รับเข้าเสริมเฉพาะในส่วนที่ต้องการความรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ และบางส่วนก็จะมีการนำเอาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามาใช้มากขึ้น
โดยปัจจุบัน ภารกิจของ กฟผ. ตามแผน PDP2018 แบ่งออกเป็น 3 ด้าน คือ
1. การดูแลความมั่นคงของระบบไฟฟ้า รายภูมิภาค โดยพัฒนาโรงไฟฟ้าใหม่ให้มีความยืดหยุ่น สามารถเดินเครื่องได้รวดเร็ว ปรับการทำงานให้ระบบเป็นแบบอัตโนมัติมากขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
2. การพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าเพื่อเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าไทยเข้ากับระบบไฟฟ้าประเทศเพื่อนบ้าน รองรับการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายไฟฟ้า (Grid Connection) ในภูมิภาค และ
3. การเตรียมการรองรับพลังงานหมุนเวียน (Grid Modernization) โดยพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานที่สถานีไฟฟ้าแรงสูง 2 แห่ง คือ สถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ขนาด 16 เมกะวัตต์ และสถานีไฟฟ้าแรงสูงชัยบาดาล จ.ลพบุรี ขนาด 21 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2563