ออนโรบอต ก่อตั้งในปี ค.ศ. 2015 และได้ควบรวมกิจการกับ Perception Robotics และ OptoForce ในปี ค.ศ. 2018 และได้ถูกซื้อกิจการโดย Purple Robotics หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน โดยเมื่อเดือนเมษายน 2019 ออนโรบอตได้ซื้อทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท Blue Workforce บริษัทสัญชาติเดนมาร์ก ซึ่งเป็นผู้ผลิตตัวจับและระบบการมองภาพ ปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ของออนโรบอตนำเสนออุปกรณ์ปลายแขนหุ่นยนต์หลายประเภท ซึ่งรวมถึงตัวจับระบบไฟฟ้าเซนเซอร์รับแรงกระทำและแรงบิด ตัวจับสุญญากาศ ตัวจับเจ้าของรางวัลรุ่น Gecko Gripper และอุปกรณ์สลับเครื่องมือรูปแบบต่างๆ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรูปแบบของออนโรบอตทำให้การทำงานผ่านระบบอัตโนมัติมีความรวดเร็วและเรียบง่ายกว่าเดิม อาทิ การบรรจุภัณฑ์ การควบคุมคุณภาพ การขนถ่ายวัสดุ การลำเลียงด้วยเครื่องจักร การประกอบชิ้นส่วน และการเคลือบพื้นผิว โดยบริษัทวางแผนสร้างการเติบโตผ่านการซื้อกิจการอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต ปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองโอเดนเซ เดนมาร์ก
เมื่อเร็วๆ นี้ ออนโรบอต ได้เปิดตัว “Gecko Single Pad (SP) Gripper” อุปกรณ์มือจับต่อพ่วงชิ้นเดี่ยวขนาดกะทัดรัดรุ่นใหม่ในตระกูล Gecko Gripper ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในระบบอัตโนมัติยุคใหม่โดยใช้พื้นที่ติดตั้งขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา โดยอุปกรณ์ Gecko SP นำเสนอ 3 ขนาด ได้แก่ SP1, SP3 และ SP5 ซึ่งตั้งชื่อตามน้ำหนักในหน่วยกิโลกรัมของแต่ละรุ่น มอบความสามารถในการจับยกชิ้นส่วนได้แบบพื้นผิวเรียบ ลื่น หรือพื้นผิวที่เจาะรู ด้วยเทคโนโลยีที่ไร้ร่องรอยการหยิบจับแม้บนพื้นผิวที่มันวาว จึงช่วยลดขั้นตอนการทำความสะอาดในกระบวนการผลิต ประหยัดเวลาและยกระดับคุณภาพของชิ้นงาน และด้วยประสิทธิภาพที่ไม่แตกต่างจากอุปกรณ์รุ่นใหญ่ในตระกูลเดียวกัน ทำให้ Gecko SP สามารถหยิบจับได้แม้ชิ้นส่วนที่เจาะรู อาทิ แผ่นวงจรพิมพ์ ตะแกรงอะลูมิเนียม หรือแม้แต่ชิ้นปะเก็นฝาสูบ
เทคโนโลยีมือจับตระกูล Gecko เจ้าของรางวัลนี้ ใช้แกนเส้นใยขนาดเล็กนับล้านในการยึดเกาะพื้นผิวเพื่อสร้างแรงดูดแวนเดอวาลล์ (Van der Waals Forces) อันทรงพลังในลักษณะเดียวกับการยึดเกาะผนังของเท้าตุ๊กแก เทคโนโลยีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการอัดอากาศหรือพลังงานจากภายนอก จึงช่วยลดต้นทุนและขั้นตอนการดูแลรักษา ทั้งยังสามารถนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยแพลตฟอร์ม One-System Solution Platform ของออนโรบอต โดยไม่ต้องอาศัยการตั้งโปรแกรม หรืออาจมีการตั้งโปรแกรมเล็กน้อยกับแขนหุ่นยนต์อุตสาหกรรมน้ำหนักเบาที่ทำงานร่วมกัน ซึ่งสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิตได้เป็นอย่างมาก
ความต้องการอุปกรณ์ปลายแขนหุ่นยนต์ (EoAT) ที่เพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017-2018 อัตราการติดตั้งเฉลี่ยต่อปีของหุ่นยนต์เพื่อการทำงานร่วมกับมนุษย์ (โคบอต) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำงานเคียงข้างมนุษย์ได้ มีอัตราการเติบโตราว 23% โดยมีการติดตั้งเกือบ 14,000 ยูนิต ในปี ค.ศ. 2018 จากข้อมูลของสหพันธ์หุ่นยนต์ระหว่างประเทศ (International Federation of Robotics : IFR)1 โดยปัจจัยขับเคลื่อนที่ก่อให้เกิดการนำไปใช้งาน มาจากการที่ส่วนประกอบหรืออุปกรณ์ปลายแขนหุ่นยนต์มีความฉลาดในการทำงานมากขึ้น เช่น อุปกรณ์หยิบจับอัจฉริยะในรูปแบบต่างๆ เมื่อยอดขายโคบอตเพิ่มสูงขึ้น จำนวนหน่วยการติดตั้งจึงเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่าตัวในช่วงเวลา 3 ปี ก่อให้เกิดโอกาสในตลาดอุปกรณ์ปลายแขนหุ่นยนต์อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน2
เจมส์ เทย์เลอร์ ผู้จัดการทั่วไป ออนโรบอต ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “อุปกรณ์มือจับตระกูล Gecko รุ่นใหม่นี้ถือเป็นส่วนต่อขยายที่ยอดเยี่ยมให้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์ของออนโรบอตเพื่อสร้างส่วนแบ่งการตลาดอย่างมีนัยสำคัญในตลาดอุปกรณ์ยังเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อมีการคาดการณ์ว่าตลาดระบบอัตโนมัติและการควบคุมกระบวนการผลิตอุตสาหกรรมจะมีมูลค่าสูงถึง 4.97 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี ค.ศ. 2025 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 7.8% เมื่อคำนวณจากปี ค.ศ. 2019-20253 ซึ่งส่วนใหญ่นั้นการเติบโตนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากโครงการภาครัฐบาล ซึ่งมีการเพิ่มอัตราการใช้งานทั้งจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการริเริ่มนโยบายอุตสาหกรรม 4.0” เจมส์ เทย์เลอร์ กล่าว
สิงคโปร์มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในตลาดระบบอัตโนมัติและการควบคุมกระบวนการผลิตอุตสาหกรรมของภูมิภาคในปี ค.ศ. 2019 ตามมาด้วยเวียดนามและไทย4
การทำงานของอุปกรณ์ Gecko SP
- กะทัดรัด น้ำหนักเบา และยืดหยุ่นในการทำงาน
- มีทั้งรุ่นน้ำหนัก 1, 3 และ 5 กิโลกรัม
- ไม่ต้องต่อสายไฟหรือระบบระบายอากาศ
- ไม่ต้องตั้งโปรแกรมหรืออาจมีการตั้งโปรแกรมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- หยิบจับโดยไม่สร้างร่องรอย แม้บนชิ้นส่วนที่มันวาวจึงไม่ต้องทำความสะอาดในภายหลัง
- แรงหยิบจับอันทรงพลังแม้กับชิ้นส่วนที่เจาะรู