บริษัทในกลุ่ม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กระทรวงการลงทุน และราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด นำโดย บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกระทรวงการลงทุน แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (Ministry of Investment : MISA) โดย Mr. Fahad J. Alnaeem – Ministry Deputy for Investments Development และ บริษัทในกลุ่ม กฟผ.
ซึ่งมีบริษัทดังนี้ บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO Group) เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) (RATCH Group) ชูศรี เกียรติขจรกุล บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) บัณฑิต อัมพรศรีสุภาพ และ บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด (INNOPOWER) อธิป ตันติวรวงศ์ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงานสะอาด (Clean Energy) การเปลี่ยนผ่านพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาด (Energy Transition) รวมถึงระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) การให้บริการงานเดินเครื่องและบำรุงรักษา (Operation & Maintenance Service) และการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอน (Decarbonization) ของทั้งสองประเทศ (Memorandum of Understanding between the Ministry of Investment of the Kingdom of Saudi Arabia and EGAT Group; EGCO RATCH EGATi INNOPOWER, in the fields of various types of clean energy and energy transition : MOU)
เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ในฐานะผู้แทนกลุ่ม กฟผ. กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกแรงขับเคลื่อนในการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาดเพื่อเป้าหมาย Carbon Neutrality ของประเทศการเปลี่ยนผ่านนี้เป็นความท้าทายของเราทั้งสองประเทศ พลังความร่วมมือที่สำคัญของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และประเทศไทย เป็นหนึ่งในจุดเริ่มสำคัญที่จะทำให้นโยบาย Decarbonization เห็นผลเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น ประชาชนของสองประเทศมีโอกาสในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น ท้ายที่สุดความร่วมมือในวันนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการก้าวไปสู่สังคมพลังงานสีเขียว เป้าหมายการลดคาร์บอน ตามที่มุ่งหวังในอนาคต
Mr. Fahad J. Alnaeem กล่าวสนับสนุนเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณกลุ่ม กฟผ. ที่ให้ความเชื่อมั่นลงนาม MOU กับ MISA ในครั้งนี้ โดยมีเป้าหมายส่งเสริมพลังงานสะอาดและการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน โดยความร่วมมือในครั้งนี้เราสองประเทศจะเดินหน้าไปพร้อม ๆ กัน เพื่อบรรลุเป้าหมายตาม MOU โดยที่ผ่านมาราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่เน้นการใช้พลังงานจากน้ำมันเป็นหลัก แต่เรามีเป้าหมายเปลี่ยนผ่านสังคมพลังงานของประเทศไปสู่ Clean Energy ภานในปี ค.ศ.2030 ขณะนี้เรามีการลงทุนใน Green Hydrogen Plant ที่มีกำลังการผลิต 650 ตันต่อวัน เรามีเป้าหมายการใช้พลังงานผสมผสาน (Energy Mix) ใช้ Renewable Energy ร้อยละ 50 ในประเทศ อีกทั้งยังมี Mega Project – Neom City of the Future ที่จะเป็น Smart City Technologies โดยใช้ Renewable Energy ร้อยละ 100 ทั้งเมือง นอกจากนี้เรายังส่งเสริมการใช้ Electric Vehicle (EV) โดยมีโรงงานผลิตรถ EV ของประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานนี้ MISA มีความยินดีในความร่วมมือกับกลุ่ม กฟผ. ในฐานะพันธมิตรที่สำคัญในการผลักดันความร่วมมืออย่างยั่งยืน และประสบผลความสำเร็จทางธุรกิจในอนาคต
“การลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ เป็นประตูที่สำคัญของกลุ่ม กฟผ. ที่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจ ลงทุน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม กับภาครัฐและภาคเอกชนของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งต่อไปอีกด้วย” บุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร กล่าวในตอนท้าย