รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV กำลังกลายเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภค เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมามีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแม้จะมีข้อดีมากมาย ทั้งเรื่องการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่คุณควรพิจารณาถึงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้ก่อนจะมีรถยนต์ไฟฟ้าไว้ในบ้าน
คุณจะชาร์จไฟที่ไหน
สิ่งที่ต้องคำนึงหากอยากเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าสักคัน คือคุณจะชาร์จไฟที่ไหน สิ่งนี้อาจไม่ใช่ปัญหาถ้าหากคุณมีบ้านเป็นของตนเอง แต่หากคุณอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียม คุณจำเป็นต้องพิจารณาสิ่งนี้เป็นข้อแรกเลยทีเดียว
สถานีชาร์จต้องพร้อม
จริงอยู่ที่ทุกวันนี้เริ่มมีจุดชาร์จไฟติดตั้งตามสถานที่ต่างๆ แต่ก็ใช่ว่าจะใช้งานได้กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น เพราะรถแต่ละรุ่นก็มีหัวชาร์จไฟที่ต่างกัน ดังนั้น ก่อนที่สถานีชาร์จไฟจะมีจำนวนเพียงพอและครอบคลุมความต้องการของรถทุกรุ่น คุณจึงต้องพิจารณาถึงการชาร์จไฟเวลาออกนอกบ้านแต่ละครั้ง เพราะหากวางแผนไม่ดีอาจทำให้การเดินทางของคุณมีปัญหาได้
ระยะทางการขับขี่จำกัด
รถยนต์ไฟฟ้ามีให้เลือกหลายรุ่นหลายราคา ซึ่งหากราคาย่อมเยาจะมีระยะทางในการขับขี่ไม่สูงมากนัก เช่น Nissan Leaf มีระยะทางในการขับขี่ 250 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง หรือหากเป็น Chevrolet Bolt EV ก็มีระยะทางในการขับขี่ราว 320 กิโลเมตร ซึ่งหากการใช้รถของคุณวนเวียนอยู่แค่ไปทำงานและกลับบ้าน ก็อาจจะไม่เป็นปัญหา แต่หากคุณคิดเดินทางไกลอาจต้องวางแผนการชาร์จไฟตลอดเส้นทางให้ดี ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าสเปกสูง เช่น Tesla Model S ที่มีระยะทางในการขับขี่ประมาณ400-500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง นั่นหมายถึงคุณต้องยอมควักกระเป๋าจ่ายในราคาที่สูงลิบ
ต้องใช้เวลาในการชาร์จ
ด้วยเหตุที่รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อมแบตเตอรี่ประจุไฟสูง ดังนั้นระยะเวลาชาร์จจึงมากขึ้นตามไปด้วย คืออย่างน้อย 8-9 ชั่วโมง ดังนั้น จึงอาจเป็นปัญหาสำหรับคนที่กลับบ้านดึก และต้องออกจากบ้านแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ แม้ปัจจุบันจะมีสถานีชาร์จด่วนที่เรียกว่า Supercharger ไว้ตามจุดสำคัญทั่วสหรัฐฯ และยุโรปบางประเทศ ซึ่งสามารถย่นระยะเวลาชาร์จให้เหลือเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที แต่ระบบดังกล่าวไม่สามารถนำมาติดตั้งกับบ้านเรือนทั่วไปได้
แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นอนาคตของการขับขี่ แต่ก่อนที่จะซื้อมาครอบครอง คุณควรพิจารณาว่าตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ของคุณหรือไม่ เพื่อให้รถยนต์ช่วยให้การเดินทางของคุณมีประสิทธิภาพที่สุดนั่นเอง