บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ได้มีการจัดงานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (Memorandum of Agreement) ว่าด้วย ความร่วมมือเพื่อการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องร่วมกับรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว โดยกระทรวงการเงิน (กระทรวงการคลัง) แห่ง สปป.ลาว จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางด้านพลังงานสะอาด โครงสร้างสายส่ง และพัฒนาระบบขนส่ง EV เชิงพาณิชย์ของ สปป.ลาว อย่างครบวงจร เพื่อยกระดับสู่สังคมไร้มลพิษ ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ท่านสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ของ สปป. ลาว เป็นประธานในพิธี โดยมี ดร. ภูทนูเพชร ไซสมบัตร รองรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน ( กระทรวงการคลัง) และนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมในพิธีลงนาม ณ โรงแรม ลาว พลาซ่า นครหลวงเวียงจันทน์ สปป. ลาว
ดร. ภูทนูเพชร ไซสมบัตร รองรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน (กระทรวงการคลัง) สปป. ลาว ได้กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นขีดหมายสำคัญระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถทางด้านพลังงานและระบบขนส่งด้วยยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของ สปป.ลาว ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) กล่าวว่า บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานสะอาด และระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และสิทธิบัตรที่หลากหลายในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจน้ำมันชีวภาพ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงการพาณิชย์แบบครบวงจรทั้งทางบกและทางน้ำ ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงานที่ทันสมัย โดยพัฒนานวัตกรรม Ultra Fast Charge Technology ที่สามารถอัดประจุไฟฟ้ายานยนต์ทุกชนิด 80% ในระยะเวลาเพียง 15-20 นาที บริษัทฯ มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือระหว่างบริษัทฯกับรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว จะประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมให้ สปป.ลาว ก้าวสู่สังคมไร้มลพิษในอนาคตอันใกล้”
“สำหรับการร่วมลงทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะสนับสนุนองค์ความรู้และประสบการณ์ เชิงเทคนิค ในการพัฒนาเพิ่มศักยภาพด้านพลังงานหมุนเวียน รวมถึงโครงสร้างสายส่ง ไฟฟ้า (Transmission line) ให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพครอบคลุมทั้งพื้นที่ สปป.ลาว และสามารถเชื่อมเข้ากับโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าของประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนการพัฒนาด้านระบบขนส่งเชิงพาณิชย์ด้วยยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนติดตั้งสถานีอัดประจุฯ Ultra-fast charge อย่างครบวงจร เพื่อการขยายตลาดในพื้นที่สปป. ลาว ให้ครอบคลุมการเดินทางทั้งการเพิ่มมูลค่าด้านพลังงานและด้านระบบคมนาคมด้วยรถโดยสารไฟฟ้าสาธารณะและรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อื่นๆ ที่จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจดังกล่าวให้แก่ สปป.ลาว ”
ดังนั้น การร่วมมือครั้งนี้ นับว่าเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญในระดับประเทศ เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในการพัฒนาพลังงานสะอาด รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพิ่มศักยภาพด้านพลังงานของ สปป.ลาว อย่างครบวงจร สู่สังคมไร้มลพิษ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน