กบง. เห็นชอบแนวทางก่อสร้างโรงไฟฟ้าภาคตะวันตก 2 โรง กำลังการผลิตรวม 1,400 เมกะวัตต์ โดยให้บริษัทราชกรุ๊ปเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากหลัง กกพ. เจรจากับราชกรุ๊ป พบว่า ได้ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศมากที่สุดและได้ค่าไฟฟ้าถูกมากเมื่อเทียบกับค่าไฟฟ้าทุกประเภท ถื่อว่าประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุด
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผย เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ได้เห็นชอบตามที่ กกพ. ได้เสนอให้ บมจ. ราชกรุ๊ป หรือราชบุรีโฮลดิ้งฯ ได้รับสิทธิสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันตก จำนวน 2 โรง กำลังการผลิตโรงละ 700 เมกะวัตต์ รวมกำลังการผลิต 1,400 เมกะวัตต์ ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ปี 2562-2580 หรือ PDP 2018
โดยสำหรับโรงแรกจะเป็นการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอร์ยี่ ขนาดกำลังการผลิต 700 เมกะวัตต์ของราชกรุ๊ปเอง ซึ่งจะสิ้นสุดอายุสัญญาในช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 และอีกโรงเป็นการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่อีก 700 เมกะวัตต์ เพื่อสร้างความมั่นคงไฟฟ้าและป้อนให้กับความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้
ทั้งนี้ กบง. ได้เห็นชอบแนวทางก่อสร้างโรงไฟฟ้าภาคตะวันตก โดยให้บริษัทราชกรุ๊ปเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากการที่ กกพ. ได้เจรจากับราชกรุ๊ป พบว่าได้ข้อตกงที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศมากที่สุด และได้ค่าไฟฟ้าที่ถูกมากเมื่อเทียบกับค่าไฟฟ้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นการผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ (IPP) และอื่นๆ ซึ่งถือได้ว่าจะทำให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุด
โดยหลังจากนี้ทาง กกพ. จะรอมติอย่างเป็นทางการจาก กบง. ที่จะส่งกลับมายัง กกพ. และจะให้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากราชกรุ๊ปต่อไป โดยตามแผนการลงทุนราชกรุ๊ปจะจ่ายไฟเข้าระบบ (COD) ในปี 2567-2568