นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการหารือร่วมกันกับนายกลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ว่า ทั้ง 2 กระทรวงได้หารือเรื่องความร่วมมือด้านพลังงานเพื่อให้สอดคล่องกับแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยยมีการหารือกันในหลายประเด็น อาทิ
เรื่องการจัดการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนของแผงโซลาร์เซลล์ ที่เห็นควรให้หน่วยงานกลางดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลร่วมกัน และดำเนินงานร่วมกันแบบบูรณาการระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาาน และกระทรวงมหาดไทย โดยมีแผนการกำจัดทำลายแผงโซลาร์ และแบตเตอรี่รถยนต์ที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ โดยอาจใช้แนวทางของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
ทั้งนี้ในปัจจุบันมีขยะอุตสาหกรรมกว่า 30 ล้านตันต่อปี ขยะอันตราย 3 ล้านตันต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่ใช้วิธีฝังกลบ จึงอยากจะหาแนวทางในการนำมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าแทน ซึ่งกระทรวงพลังงานเสนอว่าอาจนำเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งมีกว่า 2 พันล้านบาท มาบริหารจัดการขยะจากภาคอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ยังได้หารือถึงมาตรฐานยูโร 5 ทั้งรถยนต์และน้ำมัน เพื่อการแก้ปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 และลดผลกระทบปัญหามลภาวะทางอากาศ โดยในส่วนกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้หารือผู้ประกอบการรถยนต์ คาดว่ามาตรการรถยนต์ยูโร 5 จะสามารถบังคับใช้ได้ภายในปี 2564
ส่วนในด้านการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะมีการจัดตั้งศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ การพัฒนาปิโตรเคมีระยะที่ 4 ในพื้นที่เขตชายฝั่งทะเลตะวันออก รองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC การประหยัดพลังงานในภาคอุตสาหกรรมระยะ 5 ปี ระหวางปี 2561-2565 ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนการอนุรักษ์พลังงาน รวมระยะ 5 ปี ที่ 1 พันล้านบาท เพื่อประหยัดพลังงานไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท
นอกจากนี้ยังได้หารือถึงเรื่องการตั้งศูนย์ One Stop Service ด้านพลังงาน มีแผนการดำเนินงานโดย พ.ร.บ. ประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุง การจัดตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคมในนิคมอุตสาหกรรม โดยความร่วมมือทั้งหมด กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพลังงานจะร่วมผลักดันผ่านคณะทำงานที่เกี่ยวข้องต่อไป