ระหว่างวันที่ 2-5 กันยายนที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 การประชุมครั้งนี้เป็นประสงค์ร่วมกันของทั้ง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน 8 ประเทศคู่เจรจา รวมถึงองค์กรพลังงานระหว่างประเทศ ในการร่วมหารือเพื่อยืนยันเจตจำนงในความร่วมมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลักการในการผลักดันให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีความมั่นคงและยั่งยืนทางด้านพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในการกล่าวสรุปผลความร่วมมือของประเทศสมาชิกอาเซียน ในการที่จะบริหารจัดการด้านพลังงาน ภายหลังจบเวทีความร่วมมือ “การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37” มุ่งหวังให้ประเทศสมาชิกอาเซียนมีความมั่นคงด้านพลังงานอย่างยั่งยืน สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมสู่ภูมิภาค
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ได้เน้นย้ำจุดประสงค์หลัก ทางด้านพลังงานของอาเซียน เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ และการก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานที่ยั่งยืน ให้มีความน่าเชื่อถือและสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต ในที่ประชุมมีความเห็นตรงกันในการที่จะได้ขยายการซื้อไฟฟ้าแบบพหุภาคีที่จะช่วยเพิ่มความสมดุลของระบบสายส่งไฟฟ้า และจะเสริมรายได้ให้แก่ประเทศทางผ่าน
ในที่ประชุมได้รับทราบถึงความสามารถในด้านพลังงานทดแทนในภูมิภาคมากขึ้น จะผลักดันให้อาเซียนใช้พลังงานทดแทนสูงขึ้น ภูมิภาคอาเซียนกำลังเดินหน้าสู่พลังงานสะอาดและเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยจะผลักดันให้อาเซียนซื้อขายพลังงานทดแทนในสายส่งไฟฟ้าอาเซียนได้เพิ่มขึ้น และส่งเสริมการก่อตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาเครือข่ายเชื้อเพลิงชีวภาพภายในภูมิภาคมากขึ้น และให้ความสำคัญกับเรื่องความต้องการใช้พลังงานของภูมิภาคให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน อีกทั้งยังได้มีการวางแนวนโยบายในการปรับมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งอาเซียน
ทั้งนี้ในอนาคต จะมีการลงนามในสัญญาความตกลงระหว่างศูนย์ประสานงานพลังงานอาเซียนกับ สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ช่วยผลักดันการพัฒนาและการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ Bioenergy ให้มากขึ้น และเดินหน้าพัฒนาความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคาร์บอนรีไซเคิล อีกทั้งยังเน้นย้ำให้มีการระดมทุนเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานที่หลากหลาย และเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ด้านพลังงานที่มั่นคงและยั่งยืนของของภูมิภาคอาเซียน