บีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมของไทยกว่า 30 ปี พร้อมลุยขยายธุรกิจรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี เปิดบ้านโชว์ประสิทธิภาพเทคโนโลยีและนวัตกรรมโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 (BIG 3) คอมเพล็กซ์ก๊าซอุตสาหกรรมด้วยกำลังการผลิตกว่า 530,000 ตันต่อปี ในนิคมฯ เหมราชชลบุรี
ปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือบีไอจี ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมครบวงจรของประเทศไทยมากว่า 30 ปี กล่าวว่า ได้นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 หรือ Integrated Industrial Gas Complex ซึ่งเป็นคอมเพล็กซ์ก๊าซอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี จังหวัดชลบุรี เป็นโรงแยกอากาศที่ดำเนินงานด้วยเทคโนโลยี และมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับโลกจากบริษัทแม่ – แอร์โปรดักส์ แอนด์ เคมิคัลส์ อิงค์ (AP) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในกลุ่มฟอร์จูน 500 และได้รับคัดเลือกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices : DJSI) ติดต่อกัน 9 ปี
ทั้งนี้ด้วยความเป็นผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมครบวงจรของไทยมากว่า 30 ปี บริษัทฯ มีความพร้อมทั้งทางด้านเทคโนโลยีการผลิตและบริการที่ครบวงจร สำหรับต่อยอดโอกาสในการลงทุนรองรับการเติบโตของภาคการผลิตและสถานประกอบการในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0
ปัจจุบันโรงแยกอากาศแห่งนี้มีขนาดกำลังการผลิตก๊าซอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศด้วยกำลังการผลิตกว่า 1,400 ตันต่อวัน หรือ 530,000 ตันต่อปี
“ก๊าซอุตสาหกรรม ถือเป็นหัวใจหลักต่อภาคอุตสาหกรรมที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและยังมีแนวโน้มการเติบโตตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งโรงงานส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ก๊าซอุตสาหกรรมในการผลิตเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถเพิ่มมูลค่า เป็นไปตามแนวทางของรัฐบาลที่มุ่งยกระดับสินค้าไทย ทั้งในด้านการสร้างความแตกต่างและการสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” ปิยบุตร กล่าว
ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตก๊าซอุตสาหกรรมรวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านตันต่อปี มีโรงแยกอากาศตั้งอย่ใู นโครงการเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก (EEC) ใน 2 จังหวัด คือ จังหวัดชลบุรี และระยอง สำหรับโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 (BIG 3) เปิดดำเนินการในเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 และมีการขยายกำลังการผลิตไนโตรเจนเพิ่มขึ้น ในส่วนต่อขยายอกี จำนวน 150,000 ตันตอ่ ปี ในปีพ.ศ. 2558 ที่ผ่านมาทำให้เป็นโรงแยกอากาศที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดในประเทศไทย