กกร.หั่นเป้าจีดีพีเหลือ 3.7-4% ส่งออกร่วงเหลือ 3-5% จากปัญหาสงครามการค้า จีน-สหรัฐ เบร็กซิต เศรษฐกิจจีนชะลอตัว หวังการเมืองไม่ลากยาวการตั้งรัฐบาล นักลงทุนยังใจดีสู้เสือกัดฟันลงทุน เชื่อหลัง 9 พ.ค.ปัญหาต่างๆ ยุติ การเรียกร้องคัดค้านอะไรขอให้เดินไปตามกฎหมาย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.ว่า ที่ประชุมได้ทบทวนประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2562 ใหม่ โดยปรับลดจีดีพีลงอยู่ที่ 3.7-4% จากเดิมคาดไว้โต 4-4.3% การส่งออกลดลง อยู่ที่ 3-5% จากเดิมโต 5-7% เงินเฟ้อคงเดิมอยู่ที่ 0.8-1.2% โดยยังไม่มีการนำปัจจัยความไม่ชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลมาประกอบการพิจารณาแต่อย่างใด
เป็นผลจากทิศทางเศรษฐกิจโลก มีสัญญาณความไม่แน่นอนมากขึ้น กรณีอังกฤษจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิต ยังไม่มีข้อสรุป ประกอบกับความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อตกลงสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน สร้างแรงกดดันต่อแนวโน้มการส่งออกของไทยจนถึงปีหน้า โดย 2 เดือนแรกของปีนี้การส่งออกชะลอตัวลงชัดเจน
ทั้งนี้ มองสถานการณ์การเมืองในประเทศยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามในระยะต่อไป ซึ่งเบื้องต้นยังไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อการลงทุน ถ้าไม่มีปัญหาอะไร การลงทุนที่ลงทุนอยู่แล้วก็เดินหน้าตามแผน เพราะมองว่าสถานการณ์การเมืองในประเทศเป็นปัญหาชั่วคราว มีกรอบเวลาที่จะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ ขณะที่การลงทุนใหม่ อาจชะลอการตัดสินใจลงทุนบ้าง สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับนโยบายพรรคการเมืองที่เข้ามาเป็นรัฐบาล หากไม่มีนโยบายประชานิยมเกินเหตุ จนวินัยการคลังเสียก็ดี เป็นเรื่องที่น่าห่วง ไม่อยากให้เกิดขึ้น
“เร็วๆ นี้ประเทศไทยกำลังจะมีพระราชพิธีสำคัญ แต่วันนี้มีประเด็นการเมืองยังไม่ชัดเจน เมื่อเสร็จพระราชพิธี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องสามารถชี้แจงประเด็นต่างๆ ให้มีความชัดเจน เพื่อยุติปัญหาต่างๆ หลังวันที่ 9 พ.ค.2562 อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน การเรียกร้องคัดค้านอะไรขอให้เดินไปตามกฎหมาย และขอให้ยอมรับกติกาการเลือกตั้ง ที่เป็นแนวทางพิสูจน์ตามข้อเท็จจริง”
นายปรีดี ดาวฉาย กก.ผจก.ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า กกร.ห่วงภาวะเศรษฐกิจ จากปัจจัยหลักเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ หวังว่าจะหมดลงโดยเร็ว ภายใต้สมมติฐานประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าได้ราบรื่น ความเชื่อมั่นเป็นเรื่องสำคัญ กรอบเวลาเป็นเรื่องใหญ่ในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะรัฐบาลต้องเดินหน้าโครงการลงทุน ต้องเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ถ้าสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วการลงทุนก็ไม่มีปัญหา
นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความสงบเรียบร้อยของประเทศมาเป็นอันดับหนึ่ง ใครไม่เห็นด้วยต้องการเรียกร้องก็เดินไปตามกระบวนการของกฎหมาย ถ้าเห็นว่า ไม่โปร่งใสก็มีช่องทางสามารถดำเนินการตรวจสอบ เรียกร้องให้เปิดเผยด้วยความโปร่งใสต่อไป